เปิดใจยายของ “แด้” อดีตสามี "แอม ไซยาไนด์" หนึ่งในผู้เสียชีวิต หลังศาลประหารชีวิต
เปิดใจยายของ “แด้” อดีตสามี “แอม ไซยาไนด์" หนึ่งในผู้เสียชีวิต ดีใจกรี๊ดลั่น หลังรู้ข่าว ศาลประหารชีวิต รีบจุดธูปบอกหลาน
20 พ.ย. 2567 จากกรณีที่ศาลอาญา พิพากษาประหารชีวิต น.ส.สรารัตน์ หรือ แอม ไซยาไนด์ อายุ 36 ปี โดยวางยาไซยาไนด์ เป็นเหตุให้ น.ส.ศิริพร หรือ ก้อย หรือ เท้าแชร์ก้อย อายุ 32 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี
ส่วน พ.ต.ท.วิฑูรย์ อายุ 40 ปี อดีตสามี และ อดีต รองผกก.สภ.สวนผึ้ง จำเลยที่ 2 และ น.ส.ธันย์นิชา หรือ ทนายพัช อายุ 36 ปี จำเลยที่ 3 ศาลตัดสินจำคุกคนละ 2 ปี ฐานช่วยเหลือ แอม ไซยาไนด์ มิต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง โดย พ.ต.ท.วิฑูรย์ จำเลยที่ 2 ให้การเป็นประโยชน์ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน เเละให้ชดใช้ค่าเสียหายเเก่โจทก์ร่วม 2.4 ล้านบาทเศษ นั้น
หลังศาลมีคำพิพากษาดังกล่าว ผู้สื่อข่าวเดินทางไป อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยได้พบกับ นางวันเพ็ญ หรือ ยายเพ็ญ อายุ 78 ปี ยายของ นายสุทธิศักดิ์ หรือ นายแด้ อดีตสามี ของ แอม ไซยาไนด์ หนึ่งในผู้เสียชีวิต ที่ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2566 ที่บ้านพัก ใน ตำบลสามพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
โดยนางวันเพ็ญ เปิดใจว่า พอทราบคำตัดสินว่า แอม โดนประหารชีวิต รู้สึกดีใจ อยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ ว่าคนที่ทำร้ายหลานโดนลงโทษ แต่ในใจยังหวั่นว่า ในชั้นอุทธรณ์และฏีกาจะลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต เพราะกฏหมายไทยมักจะไม่มีประหารจริงๆ ยายอยากให้ 2 ศาลที่เหลือตัดสินประหารชีวิตเหมือนกัน แอมจะได้รู้ถึงความสูญเสีย ความเจ็บปวด ที่คนอื่นได้รับจากการกระทำของตัวเอง
ส่วนกฎหมายอภัยโทษ ยายอยากให้พิจารณาเป็นกรณีไป เพราะแต่ละคดีไม่เหมือนกัน แต่คดีของแอม นั้นยายไม่อยากให้อภัยโทษ เพราะเขาทำไว้กับหลายๆคนเป็นจำนวนมาก แล้วถ้าอภัยโทษไปเรื่อยๆ จนเขาได้กลับออกมาใช้ชีวิตตามปกติได้นั้น มันก็ไม่ยุติธรรมกับผู้สูญเสีย ทุกวันนี้ใช้ชีวิตตามปกติ ยังคุยกับหลานทุกวัน คิดถึงหลาน และวันนี้หลังจากทราบข่าวก็รีบไปจุดธูปบอกแด้ทันทีว่าคนที่ทำกับหลานโดนลงโทษแล้วนะ