ข่าว

สื่อต่างชาติ ตีแผ่ นทท.อังกฤษ ร้องถูก ตร.พัทยา ทำร้าย-เรียกเงินปล่อยตัว

สื่อต่างชาติ ตีแผ่ นทท.อังกฤษ ร้องถูก ตร.พัทยา ทำร้าย-เรียกเงินปล่อยตัว

03 ก.พ. 2568

ผกก.สภ.พัทยา ชี้แจง ปมสื่อต่างชาติเสนอข่าว นทท.อังกฤษร้องถูก ตร.พัทยา ทำร้าย-เรียกเงิน 15,000 แลกกับการปล่อยตัว แถมอ้างห้องขังสกปรก ยืนยันไม่เป็นความจริง

3 ก.พ. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อต่างชาติเว็บไซต์ Daily Mail ตีแผ่เรื่องราว แอนดรูว์ ฮอปกินส์ (Andrew Citizen Hopkins) นักท่องเที่ยวอังกฤษ ร้อง ถูกตำรวจพัทยาทำร้ายกักขังนาน 36 ชั่วโมง และบังคับจ่ายเงิน 15,000 บาทเพื่อแลกกับการปล่อยตัว หลังจากเขาเดินชนป้ายจราจรโดยไม่ตั้งใจ 


นาย แอนดรูว์ เล่าให้สื่อต่างชาติฟังว่า เขาเดินชนไม้กั้นรถโดยไม่ได้ตั้งใจ ขณะออกจากอพาร์ตเมนต์ จากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาตะโกนใส่เขาเป็นภาษาไทย ซึ่งเขาไม่เข้าใจและพยายามขอโทษ แต่ไม่นานตำรวจก็มาถึง และจับกุมเขาไปควบคุมตัว 

สื่อต่างชาติ ตีแผ่ นทท.อังกฤษ ร้องถูก ตร.พัทยา ทำร้าย-เรียกเงินปล่อยตัว

 

นายแอนดรูว์ อ้างว่า หลังถูกกักตัวในห้องขังนานกว่า 36 ชั่วโมง มีชายชาวอิตาลีเข้ามาแจ้งว่า เขาจะต้องจ่ายเงินสด 15,000 บาท เพื่อได้รับการปล่อยตัว โดยระบุว่า มีตำรวจพาไปถอนเงินจากตู้เอทีเอ็ม ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงสองนายรับเงินไปก่อนจะปล่อยตัว 

 

นอกจากนี้ยังมีวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ แสดงให้เห็นสภาพห้องขังในสถานีตำรวจพัทยา โดยมีมดและแมลงสาบอยู่ทั่วไป นักโทษกว่า 130 คน ถูกขังรวมกันในห้องเล็กๆ และมีหญิงตั้งครรภ์ถูกใส่กุญแจมือกับลูกกรง รวมถึงต้องนอนในพื้นที่สกปรก 

สื่อต่างชาติ ตีแผ่ นทท.อังกฤษ ร้องถูก ตร.พัทยา ทำร้าย-เรียกเงินปล่อยตัว

 

ล่าสุดทางด้าน พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2567 เวลา 20.30 น. โดยนายแอนดรูว์ได้ทำลายไม้กั้นรถ ตำรวจจึงควบคุมตัวมาสงบสติอารมณ์และเปรียบเทียบปรับ 100 บาท ก่อนปล่อยตัว 

 

ต่อมานายแอนดรูว์กลับไปที่พักเดิม แต่ถูกยกเลิกห้อง เนื่องจากมีประวัติส่งเสียงดังขณะมึนเมา ทำให้เกิดการโวยวายและถูกจับกุมอีกครั้ง ก่อนถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ตำรวจยืนยันว่า ได้คืนทรัพย์สินทั้งหมดให้ผู้ต้องหาและมีการบันทึกภาพเป็นหลักฐาน 

 

ผู้กำกับ สภ.เมืองพัทยา ระบุว่า ห้องขังมีการทำความสะอาดเป็นประจำทุกวัน และมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว เพื่อสร้างความโปร่งใสในกระบวนการยุติธรรม