โหดเหี้ยม! คนร้ายจ้วง 5 แผล เซลล์หนุ่ม ดับคาเก๋ง พบหลักฐานสำคัญ ตกข้างรถ | คมชัดลึก

เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ศรศิลป์ กิจวงศ์วัฒนา รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.ระแงะ รับแจ้งมีผู้ถูกแทงเสียชีวิต พื้นที่บ้านบาโย ม.8 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส จึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ เดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว จอดตกไหล่ทาง ตรวจสอบภายในรถ พบร่างนายฮิลมี อายุ 25 ปี เป็นเซลล์จำหน่ายรถ จยย. นอนเสียชีวิต สภาพลำคอถูกรัด มีบาดแลถูกแทง 5 จุด บริเวณหน้าอกซ้าย 2 แผล ตัดขั้วหัวใจ หน้าท้อง 2 แผล และชายโครงซ้าย 1 แผล

ชุดคลี่คลายคดี บอกว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานสำคัญของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุตกอยู่ข้างรถ อาทิ เชือกไนลอนสีเขียว ถุงมือผ้าสีขาว 1 คู่ และแหวน 1 วง ตกอยู่ใต้เบาะนั่งของคนขับ รวมไปถึงตุ๊กตาไดโนเสาร์ จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

และช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เคลื่อนย้ายรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว มาตรวจสอบที่ สภ.ระแงะ เพื่อให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบหาหลักฐานอย่างละเอียด โดยพบว่า บริเวณเบาะนั่งคนขับ มีคราบเลือดจำนวนหนึ่งตกอยู่ และมีแว่นตาอีก 1 อัน ส่วนกระโปรงหลังรถ มีกระเป๋าเสื้อผ้าสีดำ 1 ใบ นอกจากนี้ยังพบว่าคนร้ายได้แกะกล้องหน้ารถที่คาดว่าจะบันทึกเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ ออกไปด้วย

จากการสอบถามพยาน ซึ่งอยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ ให้การว่า เมื่อคืนเห็นรถเก๋งคันดังกล่าว จอดอยู่ริมถนน ลักษณะคล้ายมีการพูดคุย หรือตกลงอะไรกันสักอย่าง สักพักรถเก๋งคันดังกล่าวได้ไหลไปตกอยู่ไหล่ทางริมถนน ชาวบ้านที่ผ่านไปมา จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านรับทราบ ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

อย่างไรก็ตามจากแนวทางการสืบสวน และลักษณะการเสียชีวิตนายฮิลมี คาดว่าคนร้ายคงมีไม่ต่ำกว่า 2 คน นั่งรถเก๋งมากับนายฮิลมี โดยคนร้าย 1 คน นั่งคู่กันมา อีก 1 คน นั่งเบาะหลัง เมื่อตกลงปัญหากันไม่ได้ คนร้ายที่อยู่ด้านหลัง ได้นำเชือกไนลอนรัดคอนายฮิลมี ส่วนคนร้ายที่นั่งหน้า ใช้มีดจ้วงแทงนายฮิลมี จำนวน 5 จุด แต่ด้วยความกระเสือกกระสน เท้าของนายฮิลมี จึงไปเหยียบคันเร่ง จนรถตกไหล่ทาง

เมื่อคนร้ายทราบว่านายฮิลมี เสียชีวิต จึงได้แกะเอากล้องหน้ารถ และทิ้งเชือกรัดคอ ถุงมือสีขาวไว้ จากนั้นได้มีคนร้าย ขี่รถ จยย. มารับ หลบหนีไปท่ามกลางความมืด และเชื่อว่าคนร้ายวางแผนมาอย่างดี รวมถึงอาจรู้จักมักคุ้นกับผู้ตาย ส่วนปมเหตุน่าจะมาจากปัญหาความขัดแย้งส่วนตัว