สรุป 2 เหตุการณ์ คนร้ายลอบวางระเบิด พื้นที่ อ.ศรีสาคร และ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส | คมชัดลึก

4 ก.พ. 2568 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า สรุปเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดด้วยรถยนต์ประกอบระเบิดแสวงเครื่อง ในพื้นที่ อ.ศรีสาคร และ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ดังนี้

เหตุการณ์แรก เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ได้เกิดเหตุระเบิดบริเวณลานจอดรถของ สภ.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส จากการตรวจสอบเบื้องต้นเป็นรถยนต์ประกอบระเบิดแสวงเครื่อง ซึ่งรถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ของ จ่าสิบตำรวจ ซุลกิฟลี ตำรวจ สภ.ศรีสาคร

โดยเมื่อคืนวันที่ 3 ก.พ. 2568 จ่าสิบตำรวจ ซุลกิฟลี ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวไปจอดไว้ในที่จอดรถของบ้านพักตนเอง แล้วเข้าไปพักผ่อนในบ้าน ซึ่งมีผู้พักอาศัย คือ จ่าสิบตำรวจ ซุลกิฟลี ภรรยา และลูกอีก 2 คน รวมเป็น 4 คน และช่วงเช้าวันนี้ (4 ก.พ.) จ่าสิบตำรวจ ซุลกิฟลี ได้ขับรถคันดังกล่าวไปส่งลูกที่โรงเรียน และส่งภรรยาไปทำงานที่โรงพยาบาล

จากนั้นได้นำรถมาจอดไว้บริเวณลานจอดรถของสถานีตำรวจ โชคดีที่ระเบิดทำงานขณะที่ไม่มีใครอยู่ภายในรถ ทั้งนี้ คาดว่าคนร้ายนำระเบิดมาซุกไว้บริเวณท้ายรถหลังบังโคลนระหว่างซุ้มล้อ

เบื้องต้น สภ.ศรีสาคร ได้กั้นบริเวณที่เกิดเหตุ และประสานเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด เพื่อทำการตรวจพิสูจน์ พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่บ้าน และบริเวณเส้นทางที่สามารถเข้าออกบ้านจ่าสิบตำรวจซุลกิฟลี

สำหรับเหตุการณ์ที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 09.20 น. ได้เกิดเหตุระเบิดบริเวณลานจอดรถ ภายในที่ว่าการอำเภอยี่งอ จ.นราธิวาส บริเวณหน้ากองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอยี่งอ จากการตรวจสอบเบื้องต้น เป็นการระเบิดจากรถยนต์ประกอบระเบิดแสวงเครื่อง ทำให้เกิดเพลิงไหม้รถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงเข้าควบคุมสถานการณ์และตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่ารถที่ถูกเพลิงไหม้เป็นรถยนต์ยี่ห้อ MG ของปลัดอำเภอยี่งอ

โดยทั้ง 2 เหตุการณ์ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมพื้นที่เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดเพิ่มเติม และเข้ารวบรวมพยานหลักฐาน และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อนำตัวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป
 

ต่อมา พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์เหตุลอบวางระเบิดรถยนต์เจ้าหน้าที่ ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอศรีสาคร ภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มข้นในการดูแลพื้นที่ให้มากขึ้น และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ได้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแส บุคคลต้องสงสัยที่เข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โทร.1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง